ทริคการหางานแบบ Proactive!

 

 

หากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังมองหางานที่ใช่ เราขอแนะนำให้รู้จักกับความแตกต่างระหว่างการหางาน 2 แบบ นั่นคือ: proactive และ reactive job search ทั้ง 2 วิธีแตกต่างกันออกไปอย่างไร เรามาดูกันเลย! 

ง่าย ๆ เลย การหางานแบบ reactive คือการหารงานจากตำแหน่งที่บริษัทต่าง ๆ ได้ลงไว้ว่ากำลังหาเพื่อนร่วมงานเพิ่ม เลือกจากตัวเลือกที่คุณเห็นได้จากที่ต่าง ๆ ส่วนการหางานแบบ proactive คือการเลือกบริษัทที่คุณสนใจไว้เป็นอย่างแรก และพยายามทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ได้ร่วมงานกับบริษัทในฝันของคุณ 

แต่คำถามที่มักจะเกิดขึ้นคือ: แล้วเราจะเริ่มหางานแบบ proactive อย่างไร? ไม่ต้องกังวลไป เพราะ GetLinks มาพร้อมกับทริคง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในการหางานกับบริษัทในฝัน เรามาดูกันเลยว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนบ้าง 

การเตรียมตัวเพื่อหางานแบบ Proactive job hunt 

  • Resume 
  • LinkedIn Profile 
  • LinkedIn Connections 
  • #OpenToWork 

Resume: เตรียม​ Resume ให้พร้อม อย่าเตรียมเมื่อจะหางานใหม่เท่านั้น เพราะการที่เรามีการปรับ Resume อยู่ตลอดเวลาจะทำให้เรามีความพร้อมอย่างมากสำหรับการยื่นโปรไฟล์ของเราให้บริษัททำความรู้จักเรามากขึ้น 

LinkedIn Profile: การใช้แพลตฟอร์มนี้ก็ช่วยในการหางาน ทำให้ทุกสิ่งง่ายขึ้นอยู่เหมือนกัน สิ่งแรกที่ควรทำคือสร้างโปรไฟล์ของคุณให้เรียบร้อย และใส่ Skills & Endorsements ต่าง ๆ ไว้ให้พร้อม 

LinkedIn Connections: แพลตฟอร์มนี้ทำให้การติดต่อสื่อสารกับคนจากหลากหลายบริษัทง่ายขึ้นอย่างมาก และการที่คุณสร้างและเพิ่ม Connections บน LinkedIn จะทำให้คุณรู้จักคนมากมายขึ้น เพิ่มโอกาสให้กับตัวคุณเอง 

#OpenToWork: เพื่อให้คนรู้ว่าคุณกำลังมองหาโอกาสงานใหม่ ๆ ที่เหมาะกับคุณ อย่าลืมใช้ฟีเจอร์ #OpenToWork ของทาง LinkedIn การใช้สิ่งนี้จะช่วยให้คนที่สนใจในโปรไฟล์ของคุณกล้าติดต่อคุณมากขึ้น เพราะรู้ว่าคุณเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ในการงาน 

Be careful using Open-To-Work on your LinkedIn profile - Tom Sorensen

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการหางานแบบ Proactive เรามาดูกันว่าควรวางแผนและทำอย่างไรบ้างเพื่อช่วยในการหางานแบบ Proactive ให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น 

Proactive Job Search Strategies 

  • เลือกบริษัทที่สนใจ 

สิ่งแรกที่ต้องทำและสำคัญมาก ๆ คือตัดสินใจว่าบริษัทไหนเป็นบริษัทที่คุณสนใจจะร่วมงานด้วยและเห็นว่าตัวคุณเองจะสามารถเติบโตไปได้ในด้านนี้ ด้วยความสนใจและความชอบส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความชอบในตำแหน่ง หรือจะเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจ 

  • Company Research 

เมื่อได้บริษัทในฝันแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับทางบริษัทเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมองค์กร ผลงานของทางบริษัทที่ผ่านมา สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อเข้าร่วมองศ์กร การที่คุณได้หาข้อมูลเกี่ยวกับทางบริษัท ทำให้ทางผู้จ้างมองว่าคุณรู้จักพวกเขาได้ดี รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไรและจะสร้างความประทับใจให้นายจ้างได้อย่างมากเลยทีเดียว 

  • สร้างเครือข่าย Networking และใช้ให้เป็นประโยชน์ 

คุณสามารถสร้าง Network ของคุณจากการไปที่โปรไฟล์ของบริษัทที่คุณสนใจและเพิ่มเพื่อนที่เป็นพนักงานอยู่ในบริษัทนั้น เป็นการสร้างเครือข่ายที่ง่ายและทำให้คุณสามารถติดต่อสื่อสารกับคนภายในองศ์กรนั้นได้ 

แต่ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่คุณสามารถขยาย Network ของคุณได้อีกนะ ไม่ว่าจะเป็น: 

  • การเข้าร่วม Meetups หรือ Conference ต่าง ๆ 
  • หา Mentor ที่ดี 
  • สร้างความรู้จักของคุณเองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 
  • ใส่ข้อมูลบน LinkedIn ให้ครบ 

  • ติดต่อ Hiring Managers 

เมื่อคุณได้เตรียมตัวให้พร้อมแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่ควรต่อการติดต่อ Hiring Managers ของบริษัทที่คุณสนใจ แต่เตรียม Elevator Pitch 30 วินาทีให้พร้อมเพื่อสร้างความประทับใจในการติดต่อไป อย่าลืมที่จะแนะนำตัวในน่าสนใจ บอกถึงสิ่งที่คุณเคยทำมาและบอกไปด้วยว่าคุณสามารถช่วยบริษัทที่คุณสนใจได้อย่างไรบ้าง และที่สำคัญเลย อย่าลืมสร้าง Rapport ที่ดี เพราะคนส่วนใหญ่จะจดจำในคนที่เขาชอบพูดคุยด้วย 

การหางานแบบ Proactive อาจกินเวลามากกว่าการสมัครงานในตำแหน่งที่คนกำลังตามหา แต่หากคุณทำไ้ด้สำเร็จจะหมายความว่าคุณได้ในงานที่คุณสนใจมากที่สุด ในบริษัทที่คุณฝันเอาไว้ และสิ่งที่จะช่วยคุณได้คือการสร้างจุดหมายที่เล็กและค่อย ๆ เดินไปทีละก้าว ไม่จำเป็นจะต้องรีบ 

แต่ถ้าอยากได้ความช่วยเหลือในการหางานที่เหมาะ ติดต่อ Recruitment Consultants จากทาง GetLinks ได้เลย! เพราะเราพร้อมช่วยคุณหาและเลือกบริษัทพร้อมกับตำแหน่งที่เหมาะกับคุณแบบสะดวกสบาย 

Get hired with GetLinks !

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x