สองประเทศเล็กๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ แต่เป็นขุมพลังทางเศรฐกิจของเอเชียที่ดึงดูดคนมาทำงานจากทั่วโลก

ในขณะที่สิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ ที่ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและพัฒนาทิ้งห่างจากเพื่อนบ้านอย่างไม่ติดฝุ่น ฮ่องกงก็เป็นอีกหนึ่งเกาะที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันเป็นเมืองแห่งธุรกิจการเงินระดับโลก

แล้วเทคทาเลนต์แบบเราล่ะ ควรไปทำงานที่ไหนดีกว่ากัน ไปดูการเปรียบเทียบแบบตัวต่อตัวกันดีกว่า

1. พื้นที่มวลรวมของประเทศ:

เริ่มกันที่ฮ่องกง ที่ขนาด 2,754 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ากรุงเทพฯ เล็กน้อย ฮ่องกงประกอบไปด้วยพื้นดินสามส่วนคือแหลมเกาลูน เกาะลันเตาซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด แต่ภาคธุรกิจเกือบทั้งหมดตั้งอยู่ในบริเวณเกาะฮ่องกง ในขณะที่สิงคโปร์เกาะขนาดจิ๋วที่มีพื้นที่เพียง 719.9 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ติดอันดับ 16 ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกที่ดูในแผนที่จะเห็นเป็นเพียงเกาะเล็กๆ หมู่เกาะมลายูเท่านั้น

2. ประชากร:

ปัจจุบันฮ่องกงมีประชากรรวมอยู่ที่ 7,336,600 คน และมีความหนาแน่นของประชากร 7,075 ต่อตารางกิโลเมตร ในขณะที่สิงคโปร์ มีประชากรอยู่ที่ 5,612,253 คนและมีคนอยู่ 8,274 คนในทุกๆ 1 ตารางกิโลเมตร ตรงข้ามกับที่เรามักจำภาพว่าฮ่องกงเป็นประเทศที่มีตึกอาคารพักอาศัยหนาแน่นเต็มไปหมด อย่างไรก็ดี สิงคโปร์ก็ยังเทียบไม่ติดกับเมืองที่ประชากรหนาแน่นที่สุดในเอเชียอย่างเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่มีประชากร 29,650 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร!

อ้างอิง:
https://data.worldbank.org/country/hong-kong-sar-china?view=chart
http://www.worldometers.info/world-population/singapore-population/
https://www.weforum.org/agenda/2017/05/these-are-the-world-s-most-crowded-cities/

3. ภาษาและความหลากหลายทางวัฒนธรรม:

เพื่อที่จะไปทำงานในสองประเทศนี้ ภาษาที่จะต้องพูดได้อย่างแน่นอนคือ ภาษาอังกฤษ ทั้งสองประเทศเป็นเหมือนออฟฟิศของโลก มีบริษัทขนาดใหญ่จากต่างชาติมาเปิดสำนักงานมากมาย และมีคนจากทุกเชื้อชาติและสัญชาติย้ายมาทำงาน จึงจำเป็นต้องมีทักษะภาษาอังกฤษมาเป็นอันดับแรก สำหรับฮ่องกงที่ใช้ภาษาจีนและอังกฤษเป็นภาษาราชการ และชาวฮ่องกงใช้ภาษาจีนกวางตุ้งถึง 87% เพราะฉะนั้นถ้าจะไปทำงานฮ่องกง รู้ภาษาจีนไว้ก็ถือว่าเอาชนะใจเขาไปครึ่งหนึ่งแล้วนะ

ในส่วนของความหลากหลายทางเชื้อชาติแล้ว สิงคโปร์ชนะขาดเพราะฮ่องกงส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนและฝรั่งผิวขาวบ้างแต่สำหรับสิงคโปร์นั้น นอกจากชาวตะวันตกแล้ว ยังมีทั้งชาวจีน มาเลเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ เข้ามาอยู่ร่วมกันเป็นประชากรหลักของประเทศ รับรองว่าทำงานที่นี่คุณจะมีเพื่อนต่างเชื้อชาติต่างศาสนามากมายแน่นอน

อ้างอิง:
https://web.archive.org/web/20180212081901/
https://www.singstat.gov.sg/publications/publications-and-papers/GHS/ghs2015content

4. Food:

สำหรับคนไทยอย่างเราเรื่องกินเป็นเรื่องสำคัญ ย้ายไปประทำงานประเทศไหนแล้วอาหารอร่อยได้กินทุกวันถือเป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้เราอยากอยู่ทำงานที่นั่นไปอีกนานๆ ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีร้านอาหารมิชลินหลายสิบร้านด้วยกัน แถมยังอาหารจีนที่คุ้นปากกันดีเช่น บะหมี่เกี๊ยว ติ่มซำ หรือโจ๊ก ตลอดจนเป็ดย่างและหมูแดงฉบับฮ่องกงเลื่องชื่อ สำหรับสิงคโปร์ก็ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่กับบักกุตเต๋ร้อนๆ หรือจะเป็นอาหารจำพวกแกงกะหรี่ โรตีมะตะบะ ไปจนถึงไก่สะเต๊ะ ก็คงเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยาก บอกได้ว่าสิงคโปร์และฮ่องกงต่างก็มีข้อดีเรื่องอาหารที่เฉือนกันไม่ลงจริงๆ

5. Cost of living:

ในส่วนของค่าครองชีพนั้น หลายคนคงรู้กันดีว่าทั้งสองประเทศข้าวของค่อนข้างแพงพอสมควร เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น เราได้ใช้ Big Mac Index ของ The Economist เพื่อเปรียบเทียบราคา Big Mac ที่มีขายในเกือบทุกประเทศ แต่ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตามกำลังซื้อของคนในประเทศนั้น มาเทียบกับรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของคนในประเทศ

ในส่วนของประเทศไทย บิ๊กแม็คในไทยราคาชิ้นละ 119 บาท รายได้เฉลี่ยของคนไทย คือ 16,621.22 บาท คิดเป็น 97 บาท ต่อชั่วโมง เท่ากับคนไทยร์ต้องทำงาน 1 ชั่วโมง กับอีก 14 นาที เพื่อซื้อบิ๊กแม็ค ได้ 1 ชิ้น

อ้างอิง: https://www.economist.com/content/big-mac-index

6. Rent:

เรื่องค่าที่พักนับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ บางคนได้รับการเสนอเงินเดือนที่ดูสูงมากเมื่อเรามองจากในไทย แต่พอหักค่าเช่าห้องไปแล้วอาจเหลือน้อยกว่าที่ได้อยู่ในไทยก็มี ทั้งสองประเทศเรื่องค่าเช่าห้องแพงทั้งคู่ โดยราคาห้องนอนเดียวจะเริ่มที่ประมาณ 13,000 บาทต่อเดือน แต่สิงคโปร์จะแพงกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะในเมืองย่าน Orchard Street อาจสูงถึง 3800SGD หรือราว 92,000 บาทต่อเดือนเลยก็มี

อ้างอิง: http://www.mylifeelsewhere.com/cost-of-living/hong-kong/singapore

7. Transportation:

เป็นที่รู้กันว่าทั้งสองประเทศมีระบบขนส่งมวลชนคุณภาพสูงระดับต้นๆ ของเอเชีย สำหรับเกาะเล็กๆ นั้นรถไฟฟ้าสามารถไปได้ทั่วถึงทุกหนทุกแห่งอย่างรวดเร็ว ไม่เสียไม่ดีเลย์และไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย ในเชิงคุณภาพทั้งสองประเทศเทียบเท่ากัน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะชอบวิวและสไตล์การตกแต่งสถานีของที่ไหนมากกว่ากันละ

อ้างอิง: https://www.expatistan.com/cost-of-living/comparison/singapore/hong-kong

8. Tech Scene:

นิตยสาร Forbes รายงานว่าวงการเทคโนโลยีคืออุตสาหกรรมที่พนักงานรายได้ดีที่สุดของโลก แถมธุรกิจสายเทคโนโลยียังเจริญเติบโตไปอย่างรวดเร็วตามความต้องการของยุคสมัยใหม่ นอกจาก Silicon Valley ใน California แล้ว สองประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยีแห่งเอเชียก็คงจะหนีไม่พ้นสิงคโปร์และฮ่องกงนั่นเอง เทคทาเลนต์แบบเราถ้าอยากจะเติบโตในวงการเทคโนโลยีในเอเชีย ลองดูบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มาเปิดสำนักงานในสองประเทศนี้กัน

สำหรับใครที่อยากลองหางานในสิงคโปร์ เรามีตำแหน่งงานดี ๆ มาให้คุณเลือกเพียบ
เช็คตำแหน่งงานใน สิงคโปร์

เริ่มออกแบบอาชีพของคุณตั้งแต่วันนี้เลย

อย่ามัวแต่รอให้โอกาสเข้ามาหา คุณสามารถเข้าหาโอกาสดีๆ ได้ด้วยตัวเอง! เราพร้อมช่วยเหลือในก้าวแรกบนหนทางสู่การผจญภัยในอนาคตของคุณ มาออกตามหาโอกาสทางอาชีพใหม่ๆ บนความก้าวหน้าและนวัตกรรมที่ทันสมัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GetLinks ตั้งแต่วันนี้เลย!