หลายคนอาจดูไม่ออกว่าตอนนี้อาเซียนของเรานั้นคือแถวหน้าของการพลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนาบล็อกเชน

เป็นที่รู้กันว่าธุรกิจสตาร์ทอัพต่างรักในความเปิดกว้างต่อเทคโนโลยีของภูมิภาค ในขณะที่ภาครัฐก็จะได้ผู้มีพรสวรรค์และเงินทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่แน่นอนว่าผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานบล็อกเชนนั้นคือประชาชน อุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การเงินไปจนถึงการขนส่งสินค้าจะมีปรับปรุงขนานใหญ่ ไปจนถึงกำเนิดสร้างลู่ทางทางการค้าใหม่ๆ ได้ ศักยภาพของมันมาจากการความโปร่งใสและปลอดภัย ยังไม่ต้องพูดถึงการลดค่าใช้จ่าย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญและดึงดูดสำหรับธุรกิจทั้งสิ้น

ต่อไปนี้คือ 5 อย่างที่บล็อกเชนกำลังจะเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

1. เทคโนโลยีการเงิน

FinTech คือส่วนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่สุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

คนในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากไม่มีบัญชีธนาคาร แถมยังต้องส่งเงินให้ทางบ้านอีกด้วย แต่ว่าพร้อมจะหันมาใช้สมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต นี่จึงเป็นสภาพที่เหมาะมากสำหรับบล็อกเชน

นำหน้ามาด้วยสิงคโปร์ ด้วยโครงการ Project Ubin โดยธนาคารกลางสิงคโปร์ โครงการนี้จะชิมลางการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล (digital tokens) เป็นเงินเสมือนในหน่วยดอลล่าร์สิงคโปร์ เพื่อให้การทำธุรกรรมการเงินรวดเร็วขึ้นทั้งในและระหว่างประเทศ

เช่นเดียวกับ Project Inthanon ของไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยที่สำรวจความเป็นไปได้ในการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง นอกจากนี้ไทยยังมี Thailand Blockchain Community Initiative ความร่วมมือระหว่างธนาคาร 14 แห่งและบริษัทอีก 7 บริษัทในการเปิดช่องทางให้ธนาคารได้ใช้ บล็อกเชนมากขึ้น

ส่วน Bank Indonesia ธนาคารกลางของอินโดนีเซียก็ไม่น้อยหน้า ประกาศแผนจะตั้งสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เงินรูเปียแบบดิจิทัลนี้ก็ยังมีศูนย์กลางอยู่ โดย Bank Indonesia จะเป็นผู้ออก

ธุรกิจสตาร์ทอัพยังพยายามสร้างระบบชำระเงินและโอนเงินภายในประเทศแบบราคาประหยัดให้กับประชาชนในแถบอาคเนย์ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคาร นอกจากนี้ยังมี OmiseGO ที่เป็นที่นิยมของไทย Lala World จากมาเลเชีย และ Coins.ph ของฟิลิปปินส์ ได้สร้างเครือข่ายที่แก้ปัญหาดังกล่าวอย่างได้ผล

การเงินระดับฐานรากก็ดึงดูดนักพัฒนาบล็อกเชนได้ไม่น้อย อย่างเช่น DApact ของกัมพูชามีบริการสินเชื่อออนไลน์ขนาดเล็กดอกเบี้ยต่ำให้ประชาชนด้วยโครงร่างซอฟต์แวร์ที่มีบล็อกเชนเป็นฐาน สถาบันการเงินระดับฐานรากที่ใหญ่ที่สุดของพม่าอย่าง BC Finance ก็กำลังร่วมงานกับ Infoteria บริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติญี่ปุ่นในการทดสอบการใช้งานบล็อกเชนในธุรกิจของบริษัท

2. การจัดการพลังงาน

ไม่ใช่แค่การเก็บเงินค่าไฟเท่านั้น แต่บล็อกเชนจะเข้ามาช่วยถึงในระดับการจัดการและควบคุมการผลิตไฟฟ้าเลยทีเดียว

ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่นฟิลิปปินส์ ยังมีระบบโครงข่ายพลังงาน (grid) ที่ไม่มั่นคง และบางทีก็กระจายไม่ทั่วถึงพื้นที่ชนบท การใช้บล็อกเชนในการจัดการการกระจายพลังงานพัฒนาไปตามความต้องการสูงขึ้น ขณะเดียวกันประเทศอย่างสิงคโปร์และไทย การนำบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการผลิต ชำระเงิน และประมวลผลข้อมูล มีแนวโน้มจะสร้างประสิทธิภาพและความเชื่อมั่นให้อุตสาหกรรมได้มากขึ้น

BCPG ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทผลิตน้ำมันบางจากของไทย จับมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่างแสนสิริเพื่อผลิตพลังงานให้ชุมชนอัจฉริยะแห่งแรกของไทยที่มีหลังคาพลังแสงอาทิตย์เทคโนโลยีบล็อกเชน

ส่วนในฟิลิปปินส์มีการร่วมมือกับ Energo Labs ซึ่งตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ก็ใช้ บล็อกเชนจัดการระบบ microgrid เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังพื้นที่ชนบทของประเทศ

Electrify ธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์ ให้บริการสัญญาอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภคเพื่อสื่อสารกับผู้ผลิตไฟฟ้า สัญญาที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนนี้จะบันทึกข้อกำหนดระหว่างทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมทั้งทำให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ Electrify ยังเก็บข้อมูลและแสดงผลอัตราค่าไฟฟ้าในประเทศอีกด้วย

3. เกษตรกรรม

ภาคการเกษตรกำลังจะยกเครื่องใหม่ให้ไฮเทคกว่าเดิมด้วยบล็อกเชน ตั้งแต่การติดตามผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการตรวจสอบสต็อค 

อุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งสำคัญอย่างมากสำหรับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มมีการใช้บล็อกเชนเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและจำหน่าย ภาคการเกษตรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนและเน่าเสีย ส่วนผู้ค้ารายย่อยก็สามารถติดตามผลิตภัณฑ์อาหารจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า รวมทั้งส่งต่อข้อมูลต่างๆ ทั้งวันผลิต อุณภูมิเก็บรักษา แหล่งที่มา และรายละเอียดการจัดส่งให้ผู้บริโภคได้

Blockchain For Livelihoods From Organic Cambodian Rice (BlocRice) ของกัมพูชาเริ่มหันมาใช้บัญชีแยกประเภทแบบดิจิทัล (digital ledger) ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของ Oxfam ระบบจะสร้างสัญญาอัจฉริยะระหว่างเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ส่งออกข้าว และผู้ค้ารายย่อย ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบและบังคับใช้สัญญาได้แบบออนไลน์ และยังทำให้เกษตรกรได้คุ้นเคยกับการชำระเงินแบบไร้เงินสดและแอพลิเคชันที่ผู้บริโภคสามารถใช้ติดตามเส้นทางขนส่งของข้าวที่ซื้อ

Bananacoin ของลาวใช้วิธีที่ต่างออกไป โดยใช้ความนิยมใน cryptocurrency เพื่อระดมทุนปลูกกล้วยสายพันธุ์ที่ดีต่อสุขภาพแต่ราคาแพงอย่างกล้วยเล็บมือนาง โดยค่าเงินของ Bananacoin ยังผูกกับราคาตลาดของกล้วยหนึ่งกิโลกรัมในดอลล่าสหรัฐ

4. การขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว

การซื้อตั๋วเครื่องบินหรือติดตามสถานะของสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์จะดีขึ้นและปลอดภัยขึ้นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกนั้นพร้อมเสมอสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน เพราะระบบที่ใช้อยู่จำนวนมากมีจุดตรวจและการติดตามอยู่แล้ว การอนุญาตให้บล็อกเชนบันทึกการถ่ายโอนเหล่านั้นคงไม่ใช่เรื่องยาก

ประเทศไทยนำหน้าไปก่อนแล้วกับไปรษณีย์ไทย ระบบไปรษณีย์ของประเทศจะใช้บล็อกเชนเพื่อติดตามพัสดุที่มีมูลค่าสูงอย่างสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะถูกส่งถึงมือผู้รับ

การพัฒนาบล็อกเชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็มีศักยภาพเช่นกัน งานอย่างการออกตั๋ว โปรแกรมสะสมแต้ม และการติดตามเที่ยวบินสามารถเป็นส่วนหนึ่งของบล็อกเชนเพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลล่าสุด

ในสิงคโปร์มีโปรเจ็ค Tripio สร้างตลาดที่เชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภคกับผู้ให้บริการ โดยใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีด้วยการให้รางวัลผู้ใช้ทั้งผู้เดินทางและผู้ให้บริการ

5. การประยุกต์ใช้ในด้านสังคม

รัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งเป้าจะใช้บล็อกเชนเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และการกระจายข้อมูลสู่ประชาชน

บล็อกเชนไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่อุตสาหกรรมหลักเท่านั้น มันมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนวิธีในการสื่อสารของเรารวมทั้งควบคุมข้อมูลที่เราจะเปิดเผยออนไลน์

คล้ายกันกับ Steemit ของสหรัฐฯ แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ของกัมพูชาอย่าง Serey สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ชาวกัมพูชาได้แบ่งปันข้อมูลโดยมีรางวัลตอบแทนเป็นเงินสกุล cryptocurrency ของมันเองชื่อว่า Serey coins ระบบนี้จะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานพัฒนา เผยแพร่ และรวบรวมเนื้อหาต่างๆที่น่าสนใจ

โครงการ Jupiter Chain ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ สิงคโปร์จับมือกับบริษิท Deloitte สร้างแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวโดยสมัครใจ และจะได้รางวัลตอบแทนสำหรับการให้ข้อมูลนั้น เทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้ภาคธุรกิจและผู้ใช้งานที่ต้องการหาเงินจากข้อมูลของตัวเองสามารถทำข้อตกลงกันได้อย่างโปร่งใส

เมื่อมีนักลงทุนที่สนใจและธุรกิจสตาร์ทอัพเข้ามาสู่ภูมิภาคมากขึ้น ฝั่งประชาชนและเทคโนโลยีน่าทึ่งนี้ก็มีแต่ได้กับได้ เห็นแบบนี้แล้วคอยตั้งตาฟังข่าวกันได้เลย! อีกไม่นานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเราจะเป็นภูมิภาคชั้นยอดที่เราจะได้เห็นการเติบโตของการพัฒนาบล็อกเชนกับตาตัวเอง

เริ่มออกแบบอาชีพของคุณตั้งแต่วันนี้เลย

อย่ามัวแต่รอให้โอกาสเข้ามาหา คุณสามารถเข้าหาโอกาสดีๆ ได้ด้วยตัวเอง! เราพร้อมช่วยเหลือในก้าวแรกบนหนทางสู่การผจญภัยในอนาคตของคุณ มาออกตามหาโอกาสทางอาชีพใหม่ๆ บนความก้าวหน้าและนวัตกรรมที่ทันสมัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ GetLinks ตั้งแต่วันนี้เลย!